หมูรุ่น-ขุนเลี้ยงง่ายใครๆ ก็เลี้ยงได้จริงหรือ?

เกษตรกรส่วนใหญ่มักคิดว่าการเลี้ยงหมูรุ่น-ขุน นั้นเลี้ยงง่ายที่สุดแล้ว แค่ให้อาหารกินๆ ไปเดี๋ยวก็โตแล้วก็ขายได้ แต่หากพิจารณากันอย่างจริงจังแล้วจะพบว่าหมูขุนให้ได้ประสิทธิภาพดีนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย เนื่องจากจะต้องทำให้หมูที่เลี้ยงโตดี ได้น้ำหนักตามที่ตลาดต้องการ ในขณะที่ต้องทำให้ต้นทุนในการเลี้ยงต่ำที่สุด อีกทั้งยังมีข้อจำกัดของการใช้ยาปฏิชีวนะซึ่งต้องมีระยะหยุดยาก่อนส่งโรงฆ่า แล้วยังมีปัญหาที่มักสร้างความรำคาญใจให้กับเกษตรผู้เลี้ยงหมูขุนเป็นอย่างมากได้แก่ปัญหาเรื่องการท้องเสีย ซึ่งการท้องเสียที่เกิดขึ้นทำให้กินอาหารได้ลดลง สูญเสียน้ำน้ำและแร่ธาตุ ทำให้หมูเกิดอาการขาดน้ำ (Dehydration) ส่งผลให้อัตราการเติบโต (ADG) และอัตราการแลกเนื้อ (FCR) ของฟาร์มแย่ลง มีระยะการเลี้ยงที่นานขึ้น เพิ่มต้นทุนในการรักษา ถึงแม้ส่วนใหญ่การเกิดท้องเสียอาจไม่ทำให้ถึงตายแต่ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก

บิดมูกเลือดและอิลลิไอติส ท้องเสียกวนใจเกษตรกร

โรคบิดมูกเลือด (Swine Dysentery) และอิลลิไอติส (Ileitis) เป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายและกวนใจเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรุ่น- ขุนเป็นอย่างมาก โดยอาการท้องเสียมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย B. hyodysenteriae และ L. intracellularis ตามลำดับ และจากการสำรวจความชุกของ B. hyodysenteriae ของเผด็จและคณะ และการสำรวจความชุกของ L. intracellularis ของระพนาไพรวรรณและคณะ  พบว่าความชุกของเชื้อทั้งสองนี้ในบ้านเรามีมากถึงร้อยละ 47.3 และ 38.05 ตามลำดับ ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว โดยบิดมูกเลือดมักก่อให้เกิดปัญหาที่ลำไส้ใหญ่ ทำให้มีอาการท้องเสียตั้งแต่ถ่ายเหลว ถ่ายเป็นมูก ถ่ายเป็นเลือด ถ่ายเป็นสีดำ จนถึงถ่ายเป็นมูกปนเลือด และส่วนอิลลิไอติส มักก่อให้เกิดปัญหาบริเวณลำไส้เล็กส่วนท้าย (Ileum) แต่ในบางครั้งก็ก่อปัญหาในลำไส้ใหญ่ส่วนต้นได้เช่นกัน ทำให้มีอาการตั้งแต่ถ่ายเหลวเป็นน้ำ ถ่ายเป็นสีดำหรือถ่ายเป็นเลือด แม้ว่าบิดมูกเลือดและอิลลิไอติส จะก่อให้เกิดปัญหาที่สำไส้ในตำแหน่งที่แตกต่างกัน แต่ผลกระทบที่เกิดจากบิดมูกเลือดและอิลลิไอติสเหมือนกัน คือการกินอาหารลดลง การดูดซึมน้ำและสารอาหารได้ลดลง ส่งผลให้หมูโตช้า ADG ลดลง และ FCR เพิ่มขึ้น และหมูแตกไซส์ เพิ่มระยะเวลาการเลี้ยงให้นานขึ้น ภูมิคุ้มกันของหมูจะมีแนวโน้มลดลงหรือหมดลง ทำให้ติดเชื้อต่างๆได้ง่ายขึ้น นอกจากภูมิคุ้มกันที่ลดลงแล้วการเลี้ยงหมูไว้ในฟาร์มนานอาจเป็นตัวที่คอยแพร่โรคให้กับหมูภายในฟาร์มโดยเฉพาะในกรณีที่มีระบบการเลี้ยงแบบต่อเนื่อง (continuous) หมูที่ไม่โตตามเกณฑ์ต้องอยู่นานก็จะเป็นตัวที่แพร่เชื้อให้กับหมูที่อายุน้อยกว่าโรงเรือนเดียวกัน ส่วนระบบการเลี้ยงแบบเข้าหมดออกหมด (All in – All out) จะส่งผลให้ไม่สามารถปิดหลังเป็นชุดๆ ได้ ระยะเวลาในการใช้โรงเรือนแต่ละรอบนานขึ้น ฟาร์มสูญเสียโอกาสทำให้ต้องลงหมูรอบใหม่ล่าช้าออกไป

 

แล้วทางออกของปัญหากวนใจเหล่านี้ทำได้อย่างไร?

แน่นอนทางออกที่สามารถง่ายที่สุดคือการใช้ยาปฏิชีวนะผสมในอาหาร ซึ่งการใช้ยาผสมอาหารนี้ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของขนาดยาซึ่งต้องสูงพอที่สามารถกำจัดเชื้อเหล่านี้ได้ ส่งผลทำให้ต่อความน่ากินของอาหารโดยตรง ทำให้หมูกินอาหารได้ลดลงส่งผลต่อการเจริญเติบโตและผลพวงอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ในปัจจุบันแนวโน้มกระแสของการลดการใช้ยาปฏิชีวนะผสมอาหารก็มีมากขึ้น จึงต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะผสมอาหารใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยจะต้องออกฤทธิ์ได้กว้าง อธิบายข้อมูลและกลไกการทำงานได้ชัดเจน และผ่านการทดสอบประสิทธิภาพทั้งในห้องทดลองและสถานการณ์จริงในฟาร์ม

ดิสการ์ด-เอส (DYSGUARD-S) เป็นผลิตภัณฑ์ทดแทนยาใช้สำหรับป้องกันและควบคุมการเกิดท้องเสียที่เกิดจาก B. hyodysenteriae และ L. intracellularis ทั้งในหมูอนุบาลจนถึงหมูขุน ประกอบไปด้วยสารสกัดจากพืช (Essential oils) หลายชนิด และยังเสริมไลโซไซม์ (Encapsulated Lysozyme) และ Nicotinamide  ซึ่งมีฤทธิ์ต้านจุลชีพ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความน่ากินของอาหารและเพิ่มความสามารถในการย่อยและดูดซึมสารอาหาร ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร ป้องกันและรักษาการเกิดท้องเสีย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย เพิ่ม ADG ลด FCR ลดอัตราการตาย ลดการใช้ยาปฏิชีวนะผสมอาหาร ลดต้นทุนค่ารักษา ไม่ทำให้เกิดเชื้อดื้อยา และที่สำคัญคือไม่ต้องมีระยะหยุดยาก่อนส่งโรงฆ่าจึงสามารถให้ได้ตลอดระยะเวลาการเลี้ยง

ดิสการ์ด-เอส พิสูจน์แล้วใช้ได้ผลจริง

จากการทดลองในหมูขุนจำนวน 1,213 ตัว โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มควบคุมและกลุ่มที่เสริมดิสการ์ด-เอส (DYSGUARD-S) ทดลองเป็นระยะเวลา 10 วัน พบว่า กลุ่มที่มีการใช้ ดิสการ์ด-เอส (DYSGUARD-S) มีอัตราการเจริญเติบโตต่อวันมากกว่ากลุ่มควบคุมถึง 10.12% มีจำนวนหมูที่พบอาการท้องเสียและอัตราการตายที่ต่ำกว่า นอกจากนี้ยังมีค่ารักษาต่อตัวที่น้อยกว่ากลุ่มควบคุมอีกด้วย

ปัญหาการท้องเสียจากบิดมูกเลือดและอิลลิไอติส เป็นปัญหาที่ซ่อนอยู่ในการเลี้ยงหมูรุ่น-ขุนเกือบทุกฟาร์ม ส่งผลให้หมูโตช้า เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ กำไรของฟาร์มหดหาย และทางออกของปัญหานี้มีหลายวิธีแต่ดิสการ์ด-เอส (DYSGUARD-S) คือทางออกของปัญหาที่ดีที่สุด เนื่องจากเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ใช้สำหรับแก้ปัญหาท้องเสียในหมูที่เกิดจากบิดมูกเลือดและอิลลิไอติส โดยไม่กระทบต่อการกินของหมู อีกทั้งช่วยเพิ่มความน่ากินของอาหารและเพิ่มความสามารถในการย่อยและดูดซึมสารอาหารอีกด้วย ทำให้เกษตรกรสามารถเพิ่ม ADG ลด FCR ลดอัตราการตาย และลดต้นทุนค่ายาปฏิชีวนะผสมอาหาร ที่ให้ผลการใช้ที่ยืนยันได้ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องมีระยะหยุดยาก่อนส่งโรงฆ่า แต่อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาเรื่องการท้องเสีย ต้องทำควบคู่ไปกับการจัดการต่างๆภายในฟาร์ม เพื่อป้องกันการเข้ามาของเชื้อ โรงเรือนและสิ่งแวดล้อมที่ดี  มีการจัดการด้านอาหารและน้ำที่เหมาะสม และเลี้ยงโดยปราศจากความเครียด เพื่อให้แก้ปัญหานี้ประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน

 

บทความอื่นๆ
DANBRED IS JUST BETTER แดนบรีด… สายพันธุ์ที่เหนือกว่า part 2

จากผลการทดสอบคุณภาพซากสุกรขุน อายุ 23 สัปดาห์ ระหว่างสุกรสายพันธุ์ DANBRED กับสุกรสายพันธุ์อื่นจากเดนมาร์กผลลัพธ์คือ DANBRED มีคุณภาพซากเหนือกว่าและมีน้ำหนักเข้าเชือดสูงกว่าถึง 9.4 กก. ในระยะเวลาเลี้ยงเท่ากัน     ♦ DANBRED สายพันธุ์ที่เหนือกว่าทั้งอัตราการเจริญเติบโต และคุณภาพซาก คุณภาพและปริมาณเนื้อแดง ได้เป็นเป้าหมายสำคัญในการปรับปรุงพันธุกรรมในสายพันธุ์แม่ของสุกรแดนบรีด (Landrace, Yorkshire, Duroc) มาตั้งแต่ปี 2017 และยังคงได้รับการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยความสำเร็จเกิดจากการวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพซากและการติดตามพันธุกรรมของสุกรขุนมากกว่า 20 ล้านตัว/ปี จาก DANISH CROWN ซึ่งเป็นรัฐวิสากิจโรงเชือดและตัดแต่งสุกรที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเดนมาร์ก จึงทำให้สุกรขุนจากแดนบรีดเป็นสุกรที่เหนือกว่าทั้งด้านคุณภาพและปริมาณเนื้อแดง รวมถึงเป็นสายพันธุ์ที่ให้กำไรสูงสุดกับผู้เลี้ยงและผู้แปรรูปเนื้อสุกร   ♦ สุกรขุนแดนบรีด 130 กก. ซากสวย เนื้อแดงเยอะ ที่น้ำหนัก 130 กก. สุกรขุนแดนบรีด สามารถให้คุณภาพซากในระดับดีเยี่ยม โดยให้สัดส่วนเนื้อสันใน สันนอกและสามชั้น ปริมาณมาก ในทางกลับกันยังคงมีสัดส่วนไขมันเปลวและชั้นไขมันใต้ผิวหนังต่ำกว่าสุกรสายพันธุ์อื่นอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลจากการเน้นพัฒนาพันธุกรรมเพื่อคุณภาพเนื้ออย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้เลี้ยงสามารถเลี้ยงสุกรขุนถึงน้ำหนัก 130 กก.ได้ […]

16 Oct 2024
DANBRED IS JUST BETTER แดนบรีด… สายพันธุ์ที่เหนือกว่า part 1

จากผลการทดลองเลี้ยงจริงเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพ การเจริญเติบโตของสุกรขุนระหว่างสุกรสายพันธุ์ DANBRED กับสุกรสายพันธุ์อื่นจากเดนมาร์ก สรุปได้ว่า สุกร DANBRED ให้ผลกำไรกับผู้เลี้ยงได้สูงที่สุดและมากกว่าสายพันธุ์อื่นถึง 523 บาทต่อตัว       ♦ DANBRED มุ่งมั่นพัฒนาสายพันธุ์ที่เหนือกว่า “ผลลัพธ์และผลกำไรที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ถึงแม้จะมีต้นกำเนิดจากเดนมาร์กคล้ายกัน” เนื่องจาก DANBRED มุ่งเป้ายกระดับการผลิต ทั้งเรื่อง ลูกดกและพัฒนาประสิทธิภาพสุกรขุนไปพร้อมกัน ส่งผลให้ ADG, FCR และ FCG ของสุกรขุนดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยใช้เทคโนโลยีการคัดเลือก DNA เพื่อปรับปรุงและ พัฒนาสายพันธุ์จากการวิเคราะห์ข้อมูลสุกรพันธุ์ในระบบ มากกว่า 35 ล้านตัว อีกทั้งการเป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจ ของประเทศเดนมาร์ก จึงทำให้ DANBRED มีเป้าหมาย ที่ชัดเจนและก้าวสู่การเป็นองค์กรระดับโลก ด้วยเงินลงทุน เพื่อวิจัยและพัฒนามากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี   ♦ แอมโก้เวท ยืนยัน ADG 1,100+ กรัม/วัน ทำได้จริง จากผลการทดลองเลี้ยงจริงล่าสุดในฟาร์มระบบปิดใน […]

29 Sep 2024

We use cookies to optimize and enhance the experience of using the website. You can learn more about the use of cookies at Cookie Policy and can choose to consent to the use of cookies. by clicking cookie settings

Privacy Preferences

You can choose cookie settings by on/off. Cookies of each type are available on request, except for Necessary Cookies.

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Necessary Cookies
    Always Active

    These types of cookies are essential for the website's operation, i.e. cookies that enable the website to perform basic functions and to allow the website to function normally, such as navigating the website pages. or enable visitors/users of the website to log in and access parts of the website that are reserved for members only. The website will not function properly without these cookies being collected. Therefore, you cannot disable these types of cookies through the system of the Company's website. These cookies do not store information that can personally identify you in any way.

Save